18ธ.ค.58

เรื่องที่เรียนรู้   ศึกษาวัฒนธรรมการทำงานขององค์กร

วัตถุประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อศึกษาวัฒนธรรมการทำงานของสถานศึกษา
2. เพื่อเรียนรู้รูปแบบการทำงาน การจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา

สิ่งที่เรียนรู้
          ในวันนี้ครูภรให้นักศึกษาสังเกตการสอนทุกคน ได้เข้าร่วมศึกษาดูงาน, เยียมชมสถานศึกษา, ศึกษาวัฒนธรรม การทำงานของครู, การปฏิบัติตัวของครู โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ร่วมกับแขกผู้มาศึกษาดูงานประจำวันนี้
          ในช่วงเช้า ทางวิทยากรของโรงเรียน นำโดยครูอ้อน ครูภร ครูต๋อย ได้ให้ผู้มาศึกษาดูงานแยกออกเป็น 3 กลุ่ม แล้วแยกกันไปศึกษาดูงานแต่ละที่ ผมได้อยู่กลุ่มครูอ้อน  ครูอ้อนได้พาเยี่ยมชมสถานศึกษาพร้อมอธิบายรูปแบบการทำงานของที่นี้ให้ผู้มาศึกษาดูงานรับฟังไปพร้อมๆกับการเยี่ยมสถานที่ต่างๆ ตลอดการเยี่ยมชมหาผู้ใดีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามครูอ้อนได้เลยเพราะมันคือความรู้ใหม่ๆที่เรายังไม่ทราบ ระหว่างการเดินทางครูอ้อนได้ให้ผู้มาศึกษาดูงานฝึกความคิดไปด้วย คือ "ครูอ้อนบอกว่าให้ทุกคนหลับตา หายใจเข้าลึกๆ ขอให้ทุกคนลืมทุกสิ่งทุกอย่างจากสถานที่เดิมๆ การรับรู้ครั้งนี้คือการเริ่มนับ1 ใหม่ ขอให้ทุกคนทำใจให้สบาย  ขอให้ทุกคนอย่านึกถึงควายสีชมพู แล้วลืนตา " ทุกคนก็สงสัย ควาสีชมพูคืออะไร ครูอ้อนบอกว่า ผมบอกว่าขอให้ทุกคนอย่านึกถึง ควายสีชมพู แล้วทุกคนนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก ? เหล่าผู้มาศึกษาดูงานตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า นึกถึงควายสีชมพู  ครูอ้อนก็ได้อธิบายว่า "เช่น เดียวกันกับการเรียนการสอนของที่นี้ ถ้าเราบอกให้เด็กยิ่งจำ เด็กก็ยิ่งลืม ถ้าเราบอกยิ่งลืม เด็กก็จะยิ่งจำ บอกว่าอย่าเล่น เด็กก็จะยิ่งเล่น บอกว่ายิ่งเล่น เด็กก็จะไม่อยากเล่น "
         ตลอดการศึกษาดูงาน เยี่ยมชมสถานศึกษาในวันนี้ผมได้รับความรู้ใหม่ๆคือ
1. ข้อสงสัยเรื่องการพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ของครูโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา เรียกว่า "โมโนโทน" โดยครูเชื่อว่า ถ้าหากครูพูดเสียงดัง เด็กก็จะยังเสียงดัง ถ้าหากครูพูดเบาๆจะทำให้เด็กตั้งใจฟังในสิ่งที่ครูจะพูดซึ่งมันมีประโยชน์มากกว่า
2. โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2546 โดย คุณจอร์น ชาวต่างชาติ มีพื้นที่ทั้งหมด 50 ไร่
3. โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีครูฝ่ายปกครอง นักเรียนจะทำอะไรก็สามารถทำได้แต่ต้องมีเหตุผลและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน จะตัดผมทรงอะไรก็ได้เพราะมีความเชื่อว่า ทรงผมไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็ก
4. โรงเรียนแห่งนี้ เรียนฟรี 15 ปี เหมือนโรงเรียนที่อื่นๆ แต่โรงเรียนจะนำเงินไปซื้อส่วนอื่นๆทีไม่ใช่แบบเรียน ซื้ออะไรก็ได้ที่อยากซื้อ เพื่อให้เด็กมีกระบวนการและความรู้ในการเรียนมากที่สุด
5. ครูทุกคนมีปณิธานร่วมกัน คือ " ครูจะไม่ทิ้งเด็กแม้แต่คนเดียว"
6. การเรียนการสอนวิชาภาษาไทย จะสอนผ่านวรรณกรรม มีทั้งวรรณกรรมไทยและวรรณกรรมต่างชาติ และส่วนใหญ่จะไม่สรุปให้เด็ก เพื่อจะฝึกให้เด็กได้ฝึกคิดตามเรื่องนั้นๆเอง
7. มีความเชื่อว่า " การศึกษาไม่ตายตัว " เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้ทันโลกปัจจุบันของเรา
8. วิชาคณิตศาสตร์ จะสอนแบบให้เด็กได้คิดและลงมือปฎิบัติจริง จะไม่มีการสอนแบบท่องสูตรคูณ และสูตรต่างๆ ห้ามบอกนักเรียน แต่จะสอนให้นักเรียนฝึกคิดตามเพราะเด็กจะเรียนรู้ไปในตัว
9. ชั้นอนุบาล จะไม่มีการเขียนเส้นประ เพราะเชือว่า เด็กจะเขียนตามเส้นประ จะไม่รู้เยอะเท่ากับการเขียนเอง และไม่มีการสอนท่อง ก.ไก่ - ฮ.นกฮูก
10. การเรียนการสอนจะมีการเชื่อมโยงประสาทสัมผัสระหว่าง สมอง>>ตา>>มือ
11. มนุษย์เรียนรู้โดยผ่านการสงสัยและตั้งคำถาม
12. ผู้เรียนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็ต้องเมื่อได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก
13. โรงเรียนนี้ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการแพ้ ชนะ หรือการจัดลำดับที่ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความเท่าเทียม
14. คอมพิวเตอร์ ดนตรี พละ ไม่ได้มีไว้สอน แต่มีไว้เล่นเพื่อเรียนรู้
15. เชื่อว่าการเรียนรู้ 15 นาทีแรก คือช่วงเวลาที่เด็กให้ความสนใจมากที่สุด ดังนั้นจึงจะสอนเพียง 15 นาที ที่เหลือจะให้เด็กนักเรียนได้ทำชิ้นงาน
16. คนเราจะเดินไปข้างหน้า ต้องยอมเสียบางอย่าง
17. คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ขอเพียงรู้เรื่องของตัวเองก็พอ
18. ครูจะมีการ PLC กันทุกสัปดาห์ คือมีการช่วยเหลือ ร่วมกันแชร์ และช่วยกันคิดกระบวนการสอนเด็ก ปัญหาที่พบนำมาแก้ไข เพื่อให้การเรียนการสอนครั้งต่อไปสมบูรณ์หรือผิดพลาดน้อยที่สุด
19. การสร้างอาคารเรียนเป็นบ้าน เพราะเชื่อว่านักเรียนจะรู้สึกว่าตัวเองได้เรียนรู้อยู่ที่บ้าน จะรู้สึกอบอุ่น และเป็นสิ่งที่เด็กจะเรียนรู้ได้ดีถ้าเด็กมีความสุข
การทำ PLC ของครูสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

การสร้างอาคารเรียนมีลักษณะเป็นบ้าน

ครูจะไม่ทิ้งนักเรียนแม้แต่คนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น